วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

อาหารสำหรับนักเพาะกาย 2


หน้าที่แล้วเราพูดถึงภาควิชาการ ตอนนี้เรามาดูภาคสนาม (ภาคปฏิบัติ) กันบ้างครับ เอาแบบสั้นๆง่ายๆ ดูตามรูปแล้วทานได้เลยดีกว่า ซึ่งรายการอาหารที่แนะนำนี้ ไม่ได้คิดขึ้นมามั่วๆ แต่เต็มไปด้วยหลักการ มันมาจากคำแนะนำของคุณ จูเบิร์ต ซึ่งศึกษาและวิจัยอาหารสำหรับนักเพาะกายมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 (พ.ศ.2518) ก็ตั้งเกือบ 40 ปีมาแล้วนะครับ เขาก็พูดวิชาการไว้เพียบ แต่ถือว่าคุณมีความรู้วิชาการจากหน้าแรกแล้ว ก็เลยเอาแต่ภาคปฏิบัติเลยดีกว่า ซึ่งตอนที่ไปสัมภาษณ์นั้น เขากำลังดูตารางการทานอาหารให้กับคุณ อาชิม นักเพาะกายชื่อดัง ตามรูปล่าง ซึ่งคุณอาชิม บอกว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายเขามาก เรียกได้ว่าความเปลี่ยนแปลงนั้น รู้สึกได้เลยว่าเปลี่ยนไป ทุกๆชั่วโมง เลยทีเดียว
โภชนาการของจูเบิร์ต คือ (เตรียม เครื่องชั่งน้ำหนักอาหาร ไว้เลยครับ)
ทานน้ำขนาดแก้วละ 8 ออนซ์ วันละ 8 - 10 แก้วทุกวัน

7 โมงเช้า - โอทท์มีล 4 ออนซ์ กับไข่ 4 ใบ ,อะมิโนแอซิด 1 เม็ด ,วิตะมินและเกลือแร่ (ที่เห็นเป็นแคปซูลคือ วิตะมินและเกลือแร่ ซึ่งจะจัดมาเป็นแพ็ค โดยกิน 1 แพ็คต่อ 1 วัน ใน 1 แพ็คจะมีวิตะมินและเกลือแร่รูปแบบต่างๆหลายเม็ด แยกกินตามมื้อต่างๆ แต่รวมทั้งวันแล้วก็คือกิน 1 แพ็ค ส่วนตัวแล้ว ผมแนะนำให้ใช้วิตะมินรวมเซนทรัมแค่เม็ดเดียวก็พอครับ

10 โมงเช้า - เนื้อไก่ล้วน (ไม่มีหนัง) หรือ เนื้อแดง (เนื้อวัว) 1 ชิ้นเล็กๆ , มันอบ 3 หัว กินกับผักอย่างอื่นอีก 2 แบบ
อะมิโนแอซิด (2 เม็ด) ,วิตะมิน

บ่ายโมง - เนื้อหน้าอกไก่ชิ้นใหญ่ 2 ชิ้น ,ผัก 3 ชนิด ,ข้าวซ้อมมือ หรือข้าวซ้อมมือผสมข้าวขาว 1 ถ้วย
อะมิโนแอซิด (2 เม็ด),วิตะมิน ,เกลือแร่

4 โมงเย็น - มันอบ 1 ลูก ,กล้วย 1 ลูก
อะมิโนแอซิด (2 เม็ด),วิตะมิน ,เกลือแร่

19.00 น. - ปลา ,ผักต้ม ,ข้าว
อะมิโนแอซิด (2 เม็ด),วิตะมิน ,เกลือแร่

รายการอาหารนี้ เป็นของฝรั่งเขานะครับ แต่เราจะทานเลียนแบบเลยก็ไม่ยาก เพราะหาซื้อในบ้านเราได้หมด แถมดูแล้วทำกินเองได้ง่ายๆด้วยครับ และเขาก็แนะนำไว้แค่นี้จริงๆ โดยไม่มีกล้วยน้ำว้า ,โปรตีนปั่น ฯลฯ ที่คนสรรหามาบอกกันให้ยุ่งยาก คือโดยส่วนตัวแล้ว ผมก็ไม่ได้ว่าเรื่องกล้วยน้ำว้าหรอกนะครับ เพียงแต่ไม่ชอบให้ยัดเยียดความคิดที่ว่ากินกล้วยน้ำว้าแล้วกล้ามโต เพราะมันเป็นแค่ผลไม้ที่ให้วิตะมิน มันไม่ได้ให้โปรตีนเลย พอเขาอุตส่าห์ตั้งใจทำตามโดยกินกล้วยน้ำว้าเข้าไปมากๆ ไปเล่นกล้ามแล้วกล้ามไม่ขึ้น ก็เกิดความคิดว่าคงเอาดีทางนี้ไม่ได้ (เพราะกินกล้วยน้ำว้าเยอะขนาดนี้แล้ว) ก็เลยหนีหายไปเลย น่าเสียดายครับ ควรจะชี้ทางถูกให้ดีกว่า อย่าไปเอาความเชื่อที่ไม่มีวิทยาศาสตร์รองรับมาบอกกันอย่างนั้นเลยครับ

คุณจูเบิร์ต ไม่ได้แนะนำให้ทานซ้ำๆกันทุกวันนะครับ เขาเน้นว่าจะต้องเปลี่ยนแหล่งสารอาหารให้ได้หลายๆแบบด้วย อย่างมื้อ Mid morning เขาก็จะใช้คำว่า OR (หรือ) เพื่อให้สลับไปมาระหว่างเนื้อวัวกับเนื้อไก่ ,ส่วนผักนั้น เขาก็ไม่บอกมาตายตัวว่าต้องทานอะไร เพียงแต่บอกมาว่าต้องใช้กี่ชนิด แล้วให้เราเลือกทานเอง ซึ่งอันนี้ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะบ้านเรามีผักกินจิ้มกับน้ำพริกเป็นอาหารประจำชาติเราอยู่แล้วครับ

สำหรับเพื่อนสมาชิกที่ผมกำหนดในตารางฝึกให้ทานอะมิโนก่อนบริหาร 5 นาทีนั้น หากเพิ่มปริมาณการทานอะมิโนแอซิดขึ้นเรื่อยๆ จนได้เป็น 6 เม็ดต่อวันแล้ว ก็อาจเปลี่ยนมาทานแบบที่ปรากฏในหน้านี้ได้นะครับ ซึ่งหน้านี้กำหนดไว้ให้ทานถึงวันละ 9 เม็ด แต่ของคุณใช้แค่วันละ 6 เม็ดก็สูงสุดแล้วครับ โดยอาหารมีอยู่ 5 มื้อ คุณก็ทานคู่กับมื้ออาหารมื้อละเม็ด และเหลือ 1 เม็ดไว้ทานก่อนฝึก 5 นาทีครับ

บทความโดย http://www.tuvayanon.net/